THAILAND BIODIVERSITY CENTER
มีหน้าที่ประสานงานกำกับดูแลด้านความปลอดภัยทางชีวภาพ ให้เป็นไปตามแนวปฏิบัติสากล และติดตามตรวจสอบให้คำแนะนำด้านวิชาการจัดทำกฏเกณฑ์ มาตรฐาน หรือแนวปฏิบัติเพื่อประเมินและจัดการเกี่ยวกับปัญหาความปลอดภัยทางชีวภาพ
จากระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการอนุรักษ์และ ใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางชีวภาพ พ.ศ. 2543

ข่าวความปลอดภัยทางชีวภาพ
จาก Crop Biotech Update, March 1, 2002
คาโนล่าลูกผสมพันธุ์ใหม่ได้รับคำแนะนำให้จดทะเบียน
คาโนล่าลูกผสมพันธุ์ใหม่ 6 พันธุ์ พัฒนาโดย Pioneer Hi-Bred International, Inc. ซึ่งรวมถึง คาโนล่า 3 พันธุ์ ที่มีลักษณะของ Roundup Ready ได้รับคำแนะนำให้จดทะเบียนใน Winnipeg ประเทศแคนาดา ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตคาโนล่า ที่สำคัญของโลก
Bruce Harrison ผู้จัดการฝ่ายผลิตและฝ่ายขายของ Proven Seed ในแคนาดาตะวันตก กล่าวว่า ลูกผสมในรุ่นถัดไปนี้ จะเป็นการตั้งมาตรฐาน ใหม่สำหรับผู้ปลูกคาโนล่า ซึ่งลูกผสมเหล่านี้ จะมีผลผลิตเฉลี่ยสูงกว่าพันธุ์เปรียบเทียบ 30% นอกจากนี้ ผลจากการเปรียบเทียบในแปลง เกษตรกรขนาดใหญ่มากกว่า 40 สถานที่ แสดงให้เห็นว่าลูกผสมให้ผลผลิต อย่างคงที่ และสูงกว่าพันธุ์ผสมเปิดชั้นนำ ที่มีลักษณะ Roundup Ready ประมาณ 3-5 bushels ต่อ เอเคอร์
Neil Harker นักวิทยาศาสตร์ด้านวัชพืช ของ Agriculture and Agri-Food Canada กล่าวว่า เกษตรกรชาวแคนาดา มีความเพลิดเพลินจากประ โยชน์ที่ได้จากการปลูกคาโนล่าดัดแปลงพันธุกรรม มากกว่าที่เคยปลูกเมื่อ 7 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่ต้องมีการควบคุมวัชพืช " เรามีปัญหาการต่อต้านอย่างมาก แต่ผมคิดว่า เราได้เห็นบางสิ่งบางอย่างมีความบันเทาลง เนื่องจากการดัดแปลงพันธุกรรมและมีการ ชะลอในความกดดันนั้น " Harker อธิบาย

สภาการศึกษาสหรัฐอเมริกาเรียกร้องให้เข้มงวดในการติดตามพืช
การศึกษาที่ทำขึ้นโดย สภาการศึกษาแห่งชาติด้านวิทยาศาสตร์สหรัฐอเมริกา ได้เรียกร้องให้ หน่วยบริการตรวจสอบสุขภาพพืชและสัตว์ (Animal and Plant Health Inspection Service-APHIS) ของกรมวิชาการเกษตร (Department of Agriculture) ตั้งกลุ่มผู้เชี่ยวชาญทางวิทยาศาสตร์จากภายนอก เพื่อเพิ่มความเข้มแข็งของข้อเสนอในการเปลี่ยนกฎระเบียบ Fred Gould นักกีฎ วิทยาจาก North Carolina State University ซึ่งเป็นประธานในการศึกษา ประกาศว่า พืชปกติก็อาจจะมีความเสี่ยงต่อสิ่งแวดล้อม เทคนิคการปรับ ปรุงพันธุ์ปกติ เช่น การสร้างการผ่าเหล่า และการช่วยชีวิตคัภพะ จะเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสารพันธุกรรม ซึ่งก็ควรได้รับการติดตามด้วยเช่น กัน
การศึกษาเสนอแนะว่า ศักยภาพที่จะมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของพืชที่ได้รับการปรับปรุงพันธุ์ตามวิธีปกติ ควรได้รับการประเมินใหม่ และ ยังเรียกหาการติดตามทางด้านสิ่งแวดล้อมของพืชหลังจากปลูกเป็นการค้า เพื่อให้แน่ใจว่าการประเมินความเสี่ยงในระยะแรกมีความถูกต้อง
Michael Phillips ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารด้านอาหารและการเกษตร จากองค์กรอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ (Biotechnology Industry Organization) กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์จำนวนเป็นพันได้ถูกนำเข้าจนถึงขณะนี้ " โดยไม่มีอันตรายใดๆ ต่อความปลอดภัยด้านอาหารและ สิ่งแวดล้อม " เขาอ้างว่าระบบการกำกับดูแลที่มีอยู่ในหน่วยงานด้านการเกษตร ได้รับการมองว่ามีมาตรฐานชั้นเยี่ยมจากทั่วโลก
สำหรับรายงานต้นฉบับดูได้จาก http://books.nap.edu/books/0309082633/html/index.html

CIMMYT ขานรับต่อคำกล่าวเกี่ยวกับข้าวโพดดัดแปลงพันธุกรรม
CIMMYT ได้ยกประเด็นการขานรับต่อคำกล่าวร่วมโดย Action Group on Erosion, Technology and Concentration and Food First ในเรื่องของความเป็นไปได้ที่จะเกิดการรวมตัวกันของยีนที่ดัดแปลงกับข้าวโพดพื้นเมือง หรือ criollos ของเม็กซิโก ซึ่งเป็นที่น่ากังวลอย่างยิ่ง เพราะเม็กซิโกเป็นศูนย์กลางถิ่นกำเนิดและการเพาะปลูกข้าวโพด
คำกล่าวร่วมประกาศว่า ผู้อำนวยการทั่วไปของ CIMMYT ศาสตราจารย์ Timothy Reeves " ได้สนับสนุน....... 2 ประเด็นหลัก: มีการปะปน ในศูนย์กลางความหลากหลาย และเป็นเรื่องของเวลาก่อนที่การปะปนนั้น จะไปถึงธนาคารเชื้อพันธุ์ ถ้ายังไม่ได้เกิดขึ้น " คำกล่าวนี้กล่าว หา CIMMYT ที่นิ่งเฉยใน เรื่องนี้ และ " หลบซ่อนอยู่หลังการโต้เถียงที่หลายคนเข้าใจว่าไม่เกี่ยวกับวิธีของการตรวจสอบการดัดแปลง พันธุกรรม"
CIMMYT กล่าวว่า คำกล่าวร่วมนั้นใช้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง เขาเน้นว่า นักวิทยาศาสตร์ของ CIMMYT มีความกระตือรือล้นที่เกี่ยวข้องกับความ พยายามที่จะทำให้เกิดภาพที่ชัดเจนว่า ยีนดัดแปลงพันธุกรรมได้มาถึงแล้วและถ้าเป็นเช่นนั้น จะต้องขยายการประเมินของการนำเข้า รายงาน ในเรื่องนี้คาดว่าจะนำเสนอได้ในไม่กี่สัปดาห์ ข้างหน้า
นอกจากนี้ CIMMYT ได้เน้นถึงความต้องการที่จะเกาะยึดกับวิทยาศาสตร์และวิธีวิจัยที่เข้มงวด เพื่อให้แน่ใจคำกล่าวที่เชื่อถือได้เกี่ยวกับสถานะ ของข้าวโพดดัดแปลงพันธุกรรมในแปลงของเกษตรกร
ข่าวสารเพิ่มเติมดูได้จาก http://www.cimmyt.org/whatiscimmyt/transgenic/cimmyt_responds_22feb02.htm

ฝ้ายบีทีใกล้ที่จะได้รับอนุญาตในอินเดีย
Dr.Panjab Singh ผู้อำนวยการทั่วไปของ สภาวิจัยการเกษตรของอินเดีย (Indian Council of Agricultural Research-ICAR) เปิดเผยว่า ได้นำส่งผลการทดลองฝ้ายบีทีต่อ Genetic Engineering and Approval Committee ของกระทรวง สิ่งแวดล้อมเพื่อความรอบคอบ การตัดสินใจสุดท้ายว่าควรที่จะทำเป็นการค้าหรือไม่ จะออกมาในเดือนหน้า
การทดลองในแปลงที่ทำโดย ICAR ได้ทำใน 25-30 แปลง ทางภาคใต้ ภาคกลางและภาคตะวันตกของประเทศ รายงานแสดงให้เห็นว่า ฝ้ายบีที มีผลผลิต 6-8 quintals (600-800 กก.) มากกว่าฝ้ายปกติ และจำนวนครั้งของการพ่นสารกำจัดแมลงศัตรูลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ปัจจุบัน แปลงฝ้าย ของอินเดียประมาณ 55% ใช้สารกำจัดศัตรูเต็มที่
สถาบันกำลังพัฒนาต้นฝ้ายโดยใช้ยีนดั่งเดิมที่จะให้ความต้านทานต่อแมลงศัตรูต่างๆ Singh เพิ่มเติมว่า พืชเหล่านี้จะต้องทำการทดสอบใน แปลงเป็นเวลา 2 ปี

สหรัฐอเมริกาผลักดันให้เกิดการยอมรับอาหารดัดแปลงพันธุกรรม
สหรัฐอเมริกากำลังริเริ่มที่จะส่งเสริมเทคโนโลยีชีวภาพทั่วโลก Alan Larson, US Undersecretary for Economics, Business and Agricultural Affairs ได้บอกผู้เข้าร่วมประชุม Agricultural Outlook Forum 2002 ว่า สหรัฐกำลัง ที่จะก้าวไปสู่การกระจายข่าวสารที่มากขึ้นที่เกี่ยวกับประโยชน์จากผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีชีวภาพ เช่น ลดการใช้สารกำจัดแมลงศัตรู เพิ่มอายุของ ผลิตภัณฑ์ มีคุณค่าทางโภชนาการที่ดีขึ้นและประโยชน์ที่สำคัญต่อสุขภาพอื่นๆ ควบคู่ไปกับการกระจายข้อมูล สหรัฐกำลังทำงานร่วมกับประ เทศอื่นๆ ในการนำทางไปสู่เกษตรกรผู้ยากจนที่จะเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่นี้
สหรัฐอเมริกาได้ส่งมอบ 1 ใน 3 ของผลผลิตพืชที่ผลิตได้เพื่อการส่งออก ทำให้การค้าด้านการเกษตรระหว่างประเทศมีความสำคัญอย่างมาก ต่อสหรัฐอเมริกา ซึ่งกล่าวโดยรัฐมนตรีช่วยว่าการที่ดูแล หน่วยบริการฟาร์มและการเกษตรต่างประเทศ (Farm and Foreign Agriculture Services), J.B. Fenn
ในการพัฒนาด้านอื่นๆ ผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา Robert Zoellick ได้พบกับรัฐมนตรีการค้าในประเทศอัฟริกาใต้ เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการทำ ข้อตกลงการค้าเสรี และร้องขอให้ประเทศในทวีปอัฟริกา ที่จะต้องเปิดใจให้กว้างต่อเทคโนโลยีชีวภาพและพืชดัดแปลงพันธุกรรม "มันเป็น เรื่องเกี่ยวกับประโยชน์ของเกษตรกร และการให้อาหารกับคนจำนวนมากในที่ซึ่งไม่มีอาหารพอเพียง" เขากล่าว

การสำรวจแสดงให้เห็นว่าชาวออสเตรเลียจะรับประทานอาหารดัดแปลงพันธุกรรม
เทคโนโลยีชีวภาพออสเตรเลีย รายงานว่า จากการสำรวจเมื่อเร็วๆ นี้ ได้แสดงให้เห็นว่าผู้ บริโภคชาวออสเตรเลียส่วนใหญ่เต็มใจที่จะรับประทานอาหารดัดแปลงพันธุกรรม แม้ว่า จะยังมีความห่วงกังวลอยู่ การสำรวจนี้ทำขึ้นโดย Commonwealth Government Agency Biotechnology Australia และ Quantum Market Research
Craig Cormick ผู้จัดการด้านการศึกษาสาธารณะของเทคโนโลยีชีวภาพออสเตรเลีย (Biotechnology Australia's Public Awareness Program) กล่าวว่า การสำรวจนี้สอดคล้องกับการสำรวจอื่นๆ ที่สำคัญ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าประชาชนส่วนใหญ่จะรับประทานอาหารดัดแปลงพันธุกรรม มากกว่าที่จะไม่กิน แม้ว่าจะมีความกังวลอยู่สูง เขาเพิ่มเติมว่า เรื่องที่เกี่ยวกับการดัดแปลงพันธุกรรมจะมีความกังวลน้อยกว่าในเรื่องของ เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกี่ยวกับสุขภาพของมนุษย์และการ cloning
สิ่งสำคัญอื่นๆ จากการค้นพบของการสำรวจ รวมถึงการเพิ่มขึ้นในความรอบรู้เรื่องเทคโนโลยีชีวภาพ และการลดลงในภาพของการอคติของ สื่อในการรายงานเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับการดัดแปลงพันธุกรรม


[เผยแพร่วันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2545]